GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "Warcraft 3: Reforged"
รายงานเผย Blizzard ได้ยุบทีมพัฒนา Warcraft 3: Reforged ไปแล้วช่วงปลายปี 2020
ในช่วงปี 2020 คงต้องยอมรับว่า Warcraft 3: Reforged ถือเป็นหนึ่งในเกมที่น่าผิดหวังมากที่สุดของปีเลยจริงๆ ในช่วงนั้นเรียกได้ว่าเกิดดราม่าใหญ่โตมากๆ (สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สามารถเข้าไปอ่านได้ในลิงก์นี้ครับ) ซึ่งผลจากการเปิดตัวอย่างเลวร้าย เลยทำให้ Team 1 (พัฒนา StarCraft 2, Heroes of the Storm, และ StarCraft Remastered) ซึ่งรับผิดชอบต้องถูกยุบทีมไปช่วงปลายปี 2020 จากรายงานของ Jason Schreier ดูเหมือนจริงๆ แล้วทีมนี้จะเป็นผู้รับผิดชอบ Diablo 2 Remake (ปัจจุบันส่งต่อให้ทีม Diablo 4 แล้ว) แต่ด้วยความที่การพัฒนา Warcraft 3: Reforged มีปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารผิดพลาด, การจัดการที่ผิดพลาด กับการเปิดตัวที่เร่งรีบเนื่องจากแรงกดดันทางการเงิน แถมตัวเกมยังเปิดให้ Pre-Orders โดยไม่ถามความเห็นจากผู้พัฒนาเลย จึงทำให้สุดท้ายเกมนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และในเดือน ตุลาคม ปี 2020 Blizzard ก็ได้ยุบทีม 1 รวมถึงทำการรื้อแผนกทั้งหมดครับ ผู้พัฒนาหลายคนภายในทีมได้โอกาสในการเข้าสัมภาษณ์ในตำแหน่งอื่นๆ ภายในบริษัท แต่ก็มีนักพัฒนาหลายคนที่เลือกจะไปเข้าร่วมกับ Dream Haven หรือไม่ก็ Frost Giant ซึ่งมีนักพัฒนารุ่นเก่าจาก Blizzard อยู่มากมาย ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่า การออกไปอยู่กับบริษัทอื่นอาจทำให้พวกเขาก้าวหน้าได้มากกว่าจริงครับ อย่างไรก็ตาม การยุบทีมในครั้งนี้อาจหมายความว่า Blizzard จะไม่ทำเกมแนว RTS ออกมาอีกแล้วหลังจากนี้ด้วย เนื่องจาก Team 1 คือผู้รับผิดชอบเกมแนวนี้ทั้งหมดมาหลายปีแล้ว แต่ไม่แน่ว่าอาจจะมีการตั้งทีมใหม่ขึ้นมารับผิดชอบทางฝั่งนี้เช่นกัน เนื่องจากทางค่ายยังจำเป็นต้องอัปเดต Warcraft 3: Reforged อยู่เรื่อยๆ หลังจากนี้ด้วยครับ Credit: GamingBolt
25 Jan 2021
Nostalgia Effect: ความคะนึงหา และคุณค่าของเวลาที่ผ่านเลย
ถึง ตัวฉันเมื่อ 18 ปีที่แล้ว… นายเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีหรือเปล่า? เรารู้ว่ามันเป็นคำถามพื้นๆ แสนสามัญ ที่ตัวเราก็พอจะทราบดี ว่านายในวัย 17 ปี กำลังต่อสู้กับอะไรบ้าง เราอยากบอกว่านายไม่ต้องเป็นห่วง เพราะไม่ว่าจะด้วยความสับสนในหนทาง ความไม่เข้าใจ ความไม่แน่ใจ ทั้งหลายเหล่านี้ เชื่อเถอะว่ามันเป็นเพียงด่านที่หนึ่งในเกมชีวิตที่นายมีความสามารถที่จะฝ่าฟันมันไปได้ แต่นี่แน่ะ เราเขียนถึงนาย ไม่ใช่ว่าจะมาบ่นอะไร แต่อยากจะชวนคุยกันในเรื่องที่นายก็มีความสุขกัน ใช่แล้ว เรื่องของวิดีโอเกมยังไงล่ะ เชื่อว่าตอนนี้นายน่าจะสนุกกับเกมวางแผนอย่าง Warcraft 3: Reign of Chaos และภาคเสริม The Frozen Throne ของค่าย Blizzard Entertainment ที่สร้างกระแสความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับแนวเกม ที่ผสมผสานปัจจัยของเกม RPG เข้ากับการวางแผนแบบ Real-Time ที่ถือได้ว่าเป็นสิ่งใหม่มากๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นายรู้มั้ย เวลาผ่านไป 18 ปี ค่าย Blizzard นำผลงานอันทรงคุณค่านี้กลับมาปัดฝุ่น ปรับโฉมใหม่ ภายใต้ชื่อ ‘Reforged’ และออกวางขายให้แฟนๆ ที่ชื่นชอบได้ซื้อมาเล่นกันอีกครั้ง (อ้อ แล้วถ้านายสงสัย Starcraft 2 ก็วางจำหน่ายไปแล้วได้หลายปี ปิดตำนานแห่งสงครามอวกากศในแบบที่ไม่มีอะไรให้ค้างคาใจ พร้อม Diablo ที่ภาค 4 กำลังจะตามมาในอีกไม่ช้า) แต่สำหรับกรณีนี้ เรามีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย นายอยากจะฟังข่าวไหนก่อน? เราขอเริ่มที่ข่าวร้าย เพราะการ ‘Reforged’ ที่ควรจะเป็นการปัดฝุ่น พัฒนา และต่อยอดตามยุคสมัย กลับกลายเป็นชิ้นงานอันสุดแสนอัปยศที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์เวลากว่าสามทศวรรษของบริษัท Blizzard อย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะสามารถเกิดขึ้นได้ นายคงจะรู้สึกตกใจระคนประหลาดใจ ว่าเรื่องแบบนี้มันจะเป็นไปได้จริงๆ หรือ แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าวันเวลาสามารถเปลี่ยนคนได้ฉันใด สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไปอยู่ใต้ปีกของ Activision ผู้จัดจำหน่ายหน้าเลือดก็สามารถเปลี่ยนได้ฉันนั้น (นี่คงเป็นอีกข้อที่น่าสงสัย เพราะยุคสมัยของนาย ชื่อของ Activision นั้นดีงามไม่เคยมีรอยด่างพร้อยใดๆ ให้เห็น แต่นั่นก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่นายจะได้รับรู้ในไม่ช้า…) ความพังพินาศของ Warcraft 3: Reforged นั้น ร้ายแรงจนเกินจะเยียวยา ทั้งปัญหาทางเทคนิค ปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ ปัญหาด้านกราฟิก ปัญหาการโฆษณาเกินจริง และเมื่อ CEO หัวเรือใหญ่ออกมาปัดความรับผิดชอบ ไม่รู้ ไม่เห็น และไม่สนใจ ช่วยซ้ำรอยบาดแผลนี้ให้ลึกเกินกว่าจะสมาน อย่างน้อยยังดี ที่ทางบริษัทยังใจดี ให้ผู้ที่ไม่พอใจสามารถทำการ Refund เงินคืนได้เต็มจำนวนโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ (นี่ก็เป็นอีกหนึ่งศัพท์ใหม่ที่นายจะได้คุ้นเคยกับมันในเวลาข้างหน้า และเชื่อเถอะว่า มันจะทำให้ชีวิตการเล่นเกมของนายนั้นสะดวกสบายขึ้นอีกโขเลย…) กล่าวมาถึงตรงนี้ นายอาจจะรู้สึกว่านี่เป็นอนาคตที่ไม่น่าพิสมัย ไม่น่าเข้าใกล้ และไม่น่าเดินทางมาถึง (ใช่ มันเป็นห้วงเวลาอันโหดร้าย และนี่ยังไม่ได้นับถึงปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ที่จะเกี่ยวพันกับชีวิตของนายในไม่ช้านี้อีกนะ) แต่ถ้าจะมีข่าวดีอะไรที่เราอยากจะบอกนาย เราก็คงกล่าวอย่างสั้นๆ ง่ายๆ ว่า …. ‘ขอบคุณ’ ขอบคุณในเรื่องอะไร? นายคงจะสงสัยอยู่ภายในใจ แต่เราก็ยังบอกอย่างง่ายๆ อีกครั้งว่าขอบคุณ ขอบคุณที่ยังรักที่จะเล่นวิดีโอเกม ขอบคุณที่ยังเชื่อมั่นในวงการ ขอบคุณที่ยังหลงใหลในชิ้นงาน ที่นำมาซึ่งเรื่องที่ดีในเวลาอีกสิบแปดปีข้างหน้า ในเวลานี้ วงการเกมขยายตัวใหญ่โตกว้างขวาง ผสมผสานงานศิลป์เข้ากับงานฝีมือได้อย่างเต็มศักยภาพ และแน่นอนว่า เมื่อเทคโนโลยีเดินทางมาถึง บวกรวมกับความคิดคำนึงถึงชิ้นงานเก่าๆ ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง เราจึงยังเห็นผลงานสุดคลาสสิคที่กลับมาในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบ High-Definition Edition, Remaster ไปจนถึงที่สำคัญที่สุดคือ การ Remake กลับมาสร้างใหม่ ภายใต้ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงผ่านไปอย่างก้าวกระโดด (ขอโทษอีกครั้ง ที่จดหมายฉบับนี้อาจจะมีศัพท์แสงที่ยากต่อการเข้าใจ แต่ยังย้ำว่ามันจะกลายเป็นสิ่งที่นายได้คุ้นเคยแน่ๆ ในอนาคตภายภาคหน้า) ผลงานเกมคลาสสิคที่กลับมาใหม่นั้นมีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะด้วยซีรีส์ซอมบี้สยอง Resident Evil ที่ Remake ไปแล้วถึงสามภาค, เกมวางแผนสุดคลาสสิค Command and Conquer ที่จะ Remastered ให้ภาพสดสวยความละเอียดคมชัดลึกถึงอณู หรือแม้แต่เกมที่เราและนายรัก อย่าง Final Fantasy VII ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการ Remake ให้กับระบบ Playstation 4 และจะวางจำหน่ายในเดือนเมษายนนี้ที่กำลังจะมาถึง (ใช่แล้วล่ะ Playstation ยังคงยืดหยัดท้ากาลเวลามาได้ถึงสี่รุ่นเชียวนะ!!) ทุกสิ่งที่กล่าวไปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้ความคิดคะนึงหา หรือที่เราขออนุญาตเรียกว่า ‘Nostalgia Effect’ ของเหล่าแฟนๆ ที่ยังคงมุ่งหวังจะได้เห็นผลงานเกมที่ตนรัก ได้กลับมาสร้างความยิ่งใหญ่ กลับมามอบความสนุก และกลับมาถูกบอกเล่าด้วยน้ำเสียงสำเนียงที่แตกต่างออกไปตามยุคสมัยและวันเวลา มันเป็นสิ่งที่ทรงพลังมากๆ ที่สามารถขับเคลื่อนได้แม้แต่บริษัทใหญ่ๆ ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ถึงเสียงแห่งความต้องการดังกล่าว ปีนี้ … ค.ศ.2020 น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีที่ดีของวงการเกม เรามีผลงานชั้นยอดมากมายที่พร้อมจะวางจำหน่ายในตลอดปี เรามีผลงานที่ชวนให้คิดถึงวันวานอันแสนหวานสมัยกระโปรงบานขาสั้น และเรามีวงการที่เติบโตอย่างเข้มแข็งในแต่ละวันที่ผันผ่าน และถ้านั่นไม่เรียกว่าข่าวดี แล้วเราจะเรียกว่าอะไรได้? อีกครั้ง เราขอบคุณนาย จากใจจริง รวมถึงทุกคนที่ยังเชื่อมั่น และส่งพลังแห่งการคะนึงหาให้สิ่งที่ดีๆ ได้กลับมาอีกครั้ง และแม้จะมีความผิดพลาดที่เกิดจาก Warcraft 3: Reforged แต่มันก็เป็นเรื่องที่เล็กน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับสิ่งที่กำลังจะตามมา ดังนั้น เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ให้ดี มันจะมีคุณค่าสำหรับนายอย่างแน่นอน ด้วยรักและยังคะนึงถึง ตัวนายในอีก 18 ปีข้างหน้า ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
24 Feb 2020
สรุปดราม่า Warcraft 3 Reforged หนึ่งในเกมที่น่าผิดหวังที่สุดของปี 2020!
Warcraft 3 กับ Warcraft 3: Frozen Throne อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเกมที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Blizzard เป็นอย่างมากในช่วงปี 2002 ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องของเกมที่สนุกมาก ๆ ระบบเกมเพลย์ที่ดี และมีเกมชื่อดังมากมาย ที่ได้ถือกำเนิดมาจากเกมนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น World of Warcraft หนึ่งในเกม MMO ที่ดีที่สุดในโลก หรือ DOTA 2 เกม MOBA ที่โด่งดังไปทั่วโลก ก็ล่วนแล้วแต่มีต้นกำเนิดมาจาก Warcraft 3 ทั้งนั้น ดังนั้นถ้าจะบอกว่านี้คือหนึ่งในเกมระดับตำนาน ก็คงจะไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย แต่อย่างที่รู้กันว่าช่วงนี้กำลังมีกระแสดราม่าเกี่ยวกับเกม Warcraft 3 Reforged ที่เป็นเหมือนเวอร์ชั่น Remastered ของเกมอยู่ แล้วดราม่านี้เริ่มได้ยังไง? , ทำไมถึงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตสะเทือนวงการเกมขนาดนี้? วันนี้พวกเรา GameFever Th จะพาไปดูกันครับ จุดเริ่มต้นของดร่าม่าครั้งนี้ อย่างที่ได้กล่าวมาในข้างต้นว่า Warcraft 3 นั้นถือเป็นต้นกำเนิดของเกมฟอร์มยักษ์มากมายในปัจจุบัน ทำให้ตอนที่ Blizzard บอกว่าจะเอาเกมนี้มา Remake และวางจำหน่ายอีกครั้งในชื่อ Warcraft 3 Reforged พร้อมกับปล่อย Trailer แรกของเกมในงาน Blizzcon ปี 2018 มันได้สร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าแฟน ๆ เป็นอย่างมาก เพราะนี้หมายถึงเกมระดับตำนานจะกลับมาให้เราเล่นอีกครั้ง แต่มีภาพ กราฟิก ที่สวยเหมือนเกมในยุคใหม่ อย่างที่เห็นในวิดีโอข้างบนว่า กราฟิกของตัวเกมมันมีความสวยงามขึ้นอยางมากจริง ๆ ทำให้เหล่าแฟน ๆ แทบจะรอไม่ไหว ยิ่งช่วงกลางเดือนตุลาคมปี 2019 ที่มี วิดีโอเกมเพลย์ของ Warcraft 3 Reforged ออกมาทาง Channel Youtube ที่ใช้ชื่อว่า Book of Flames แต่กลับไม่มีใครที่ออกมารีวิวเกมแบบ เสีย ๆ หาย ๆ เลย ก็ยิ่งทำให้ผู้เล่นมั่นใจว่า พอตัวเกมวางจำหน่ายจริง ๆ ทุกอย่างมันจะต้องออกมาดีอย่างแน่นอน และในวันที่ 28 มกราคม 2020 ตัวเกมก็ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการครั้งแรก แต่แทบทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้เล่นคาดหวังจะได้เห็นในเกมเวอร์ชั่นนี้ มันกลับไม่เหมือนที่คิดครับ ฉาก Cinematic ของเกมที่หายไป และ Ui ไม่เหมือนที่เคยโฆษณาเอาไว้ ตอนเกมนี้เปิดตัวครั้งแรกในงาน Blizzcon 2018 ได้มีการโชว์ฉากที่ Arthas ต้องเข้าไปทำลายเมืองที่มีผู้ติดเชื่อ ซึ่งได้มีการทำ Cinematic ในเกมใหม่อย่างสวยงาม แต่พอตัวเกมจริง ๆ ออกมา ไอ้ฉากดังกล่าวมันกลับถูกทำออกมาในอีกแบบหนึ่ง จนทำเอาผ้เล่นงงเป็นไก่ตาแตกว่า "อ่าวแล้วฉากที่เคยได้เห็นในงาน Blizzcon หายไปไหน?" อีกทั้งตัว UI ของเกม ก็ไม่ได้มีหน้าตาเหมือนกับที่เอามาโชว์ในงาน เลยแม้แต่น้อย ส่งผลให้ผู้เล่นส่วนใหญ่รู้สึกโกรธมาก ๆ ครับ กราฟิกของเกมถูกเปลี่ยนแค่ Model ของตัวละครเท่านั้น ระยะเวลาระหว่าง Warcraft 3 กับ Warcraft 3 Reforged นั้นห่างกันถึง 18 ปี บวกกับคำพูดของทาง Blizzard เองว่านี้คือการ Remake ไม่ใช้ Remastered ทำให้แฟน ๆ คาดหวังที่จะได้เห็นเกมใหม่ที่มีภาพสวยงามสมกับที่ออกในปี 2020 แต่ความจริงก็ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะตัวเกมจริง ๆ ที่ออกมา นอกจาก Model ของตัวละคร ที่มีการทำใหม่แล้ว ตัวแมพแทบจะไม่ต่างจากเดิมเลย มีแค่ Texture เท่านั้นที่ดูสวยขึ้น เหมือนกับว่านี้เป็นเพียงแค่ Pack เอาไว้อัปเดต Model ของตัวละคร กับปรับ Texture ในเกมให้ส่วยขึ้น แต่กลับมีราคาถึง $29.99 มากกว่า ส่งผลให้นี้เป็นอีกเรื่องที่เกมเมอร์หลาย ๆ คนไม่พอใจอย่างมากครับ bug ของเกมที่มีเยอะมาก ๆ จนเป็นเหมือนเกมยังทำไม่เสร็จดี หลังจากประกาศเปิดตัว ข่าวคราวของเกมก็เงียบหายไปเลย บวกกับสิ่งที่ถูกเพิ่ม หรืออัพเกรดจริง ๆ มีแค่ไม่กี่อย่างดังที่กล่าวมาข้างบน ซึ่งมันควรจะหมายความว่าระบบหลังบ้านของเกม และอื่น ๆ มันควรจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ก็มีผู้เล่นจำนวนมาก ที่ต้องหงุดหงิดกับ bug มากมายที่มีในเกม บางรายหนักถึงขนาดที่ว่าตัวเกมไม่มีเสียง จนต้องทำการเปิดปิดใหม่เป็น 10 รอบถึงจะหายเลยด้วย Blizzard ไม่อณุญาติให้ Refuned แน่นอนว่าพอเกมไม่ถูกใจผู้เล่นขนาดนี้ ก็มีผู้เล่นจำนวนมากที่ขอ Refunds เกม ซึ่งทาง Blizzard ก็ตอบกลับได้การไม่อนุญาตให้ Refunded เกม แถมยังแบน User ที่ตั้ง Forum "วิธีการขอ Refunded เกม" อีกด้วยงานนี้ก็ยิ่งสร้างความไ่พอใจให้กับแฟน ๆ มากขึ้นไปอีก บทสรุปของดราม่า จนในเช้าของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2020 ทาง Blizzard ก็เหมือนจะไม่สามารถ ทนต่อเสียงด้านลบจำนวนมาก แรงกดดัน และการคอมเพลนจากผู้เล่นไหว สุดท้ายจึงมีการเปิดให้สามารถขอ Refunded เกมได้ เป็นการปิดม่านดราม่าในครั้งนี้ ตัวผู้เขียนเองเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกผิดหวังกับเกม Warcraft 3 Reforged มากเหมือนกัน แต่ไม่ว่ายังไง Blizzard ก็ยังเป็นชื่อของหนึ่งในผู้สร้างเกมยอดเยี่ยมมาโดนตลอดเหมือนเดิม ก็ได้แต่หวังว่าผลงานต่อ ๆ ไปของพวกเขา มันจะดีมากขึ้นครับ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
04 Feb 2020
Blizzard เปิดให้สามารถขอ Refunds เกม Warcraft 3: Reforged ได้แล้ว!
กลายเป็นหนึ่งในเกมที่น่าผิดหวังที่สุดของปี 2020 ไปแล้วกับ Warcraft 3: Reforged เพราะหลังจากตัวเกมวางจำหน่ายได้ไม่ถึงอาทิตย์ ก็โดนแฟน ๆ และเกมเมอร์มากมายที่ซื้อไป ให้คะแนนรีวิวแบบต่ำติดดิน แถมยังโดนคอมเพลนอย่างหนักหน่วงมาก ถึงขนาดได้คะแนน User Score เพี่ยงแค่ 0.5 บนเว็บไซต์ Metacritic เลยทีเดียว และเหมือนว่าทาง Blizzard จะเริ่มทนกระแสด้านลบนี้ไม่ไหวแล้ว เพราะล่าสุดก็ได้มีการเปิดให้คนที่ซื้อเกมไปสามารถขอ Refunds ได้แล้วครับ! เว็บไซต์ GameRant ได้รางงานว่า มีผู้เล่นมากมายที่ได้รับการ Refunds จากทาง Blizzard Support เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะขอ Refunds ไปกี่ครั้งก็ถูกปฏิเสธกลับมา แต่ดูเหมือนตอนนี้จะสามารถขอเงินคืนได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรแล้วครับ ถ้าหากใครที่ซื้อตัวเกมมาแล้วไม่พอใจ และมีความต้องการจะขอเงินคืน ก็สามารถทำได้แล้วตอนนี้เลยครับ Warcraft 3: Reforged วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PC เท่านั้น Credit : GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
04 Feb 2020
Warcraft 3 Reforged กลายเป็นเกมที่ได้ User Score ต่ำที่สุดในเว็บ Metacritic!
กลายเป็นอีกหนึ่งดราม่าที่กำลังหนักหน่วงอยู่ในช่วงนี้กับเกม Warcraft 3 Reforged ที่ดูเหมือนว่า ตัวเกมที่วางจำหน่ายจริง ๆ จะไม่เหมือนที่ Blizzard เคยได้โฆษณาไว้เลย ขนาดเว็บไซต์ IGN เองก็ได้ทำการปล่อยวิดีโอโชว์ความแตกต่างระหว่าง ตัวเกมที่ได้ถูกโฆษณาในงาน Blizzcon 2018 กับตัวเกมจริง ๆ ว่ามีความแตกต่างกันขนาดไหน สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ! ยังไม่ใช้แค่นั้น ในเว็บไซต์ Metacritic ตัวเกมยังได้คะแนนรีวิว User Score ต่ำที่สุดที่ 0.5 คะแนนอีกด้วย (ตำกว่า Metal Gear Survive ที่ตอนนี้มีคะแนน 1.2 ซะอีก) คอมเม้นต์แทบทั้งหมดกว่า 19,000 คอมเม้นต์ ก็เป็นในเชิงที่ลบมาก ๆ บ้างก็ว่า "นี้คือเกม Remastered ที่แย่ที่สุด" บ้างก็ว่า "ทำยังไงถึงพัฒนาเกมที่มันดีอยู่แล้วให้แย่ลงได้ขนาดนี้" ถึงขนาดมีคนตั้งชื่อเล่นให้กับเกมใหม่ว่า Warcraft 3 Refund เลยทีเดียวครับ Warcraft 3 Reforged วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน PC เท่านั้น Credit : PCgamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
03 Feb 2020
Blizzard จับ Warcraft III รีมาสเตอร์ ภาพสวยระดับ 4K
ใครเป็นแฟน Warcraft III ก็น่่าจะดีใช่มิใช่น้อยเพราะล่าสุดในงาน BlizzCon 2018 ทางผู้พัฒนาอย่าง Blizzard เองได้เปิดตัวเกมภาค Remaster โดยใช้ชื่อว่า Warcraft 3: Reforged โดยตัวเกมเวอร์ชั่นนี้จะมีการรีโมเดลของตัวละครและแอนิเมชั่นต่างๆ, ปรับกราฟิกได้สูงในระดับ 4K, ปรับเปลี่ยนแผนที่และโหมด Campaign เนื้อเรื่องของเกม พร้อมอัพเกรด UI และ World Editor อีกด้วย https://www.youtube.com/watch?v=Q2zfx5hQ3CE รวมถึงทางผู้พัฒนาเองก็ได้ยืนยันด้วยว่าตัวเนื้อหาเสริมอย่าง Forzen Throne นั้นก็จะอยู่ในเกมเวอร์ชั่นนี้ พร้อมทั้งเรายังสามารถเล่นโหมด Online Multiplayer ได้อย่างในเวอร์ชั่นเก่า ซึ่งอย่างนี้เราสามารถเล่นเกม DotA 1 ได้ในเวอร์ชั่นภาพสวยขึ้นแน่นอน แถมเกมภาคนี้ยังสามารถเล่นกับผู้ที่ใช้เกมเวอร์ชั่นเก่าเล่นได้อีกด้วย โดย Blizzard บอกว่าตัวเกมจะมีกำหนดวางจำหน่ายในช่วงปีหน้า https://www.youtube.com/watch?v=72UbFQO5-m0 ขอบคุณข้อมูลจาก pcgamer
03 Nov 2018
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "Warcraft 3: Reforged"
รายงานเผย Blizzard ได้ยุบทีมพัฒนา Warcraft 3: Reforged ไปแล้วช่วงปลายปี 2020
ในช่วงปี 2020 คงต้องยอมรับว่า Warcraft 3: Reforged ถือเป็นหนึ่งในเกมที่น่าผิดหวังมากที่สุดของปีเลยจริงๆ ในช่วงนั้นเรียกได้ว่าเกิดดราม่าใหญ่โตมากๆ (สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สามารถเข้าไปอ่านได้ในลิงก์นี้ครับ) ซึ่งผลจากการเปิดตัวอย่างเลวร้าย เลยทำให้ Team 1 (พัฒนา StarCraft 2, Heroes of the Storm, และ StarCraft Remastered) ซึ่งรับผิดชอบต้องถูกยุบทีมไปช่วงปลายปี 2020 จากรายงานของ Jason Schreier ดูเหมือนจริงๆ แล้วทีมนี้จะเป็นผู้รับผิดชอบ Diablo 2 Remake (ปัจจุบันส่งต่อให้ทีม Diablo 4 แล้ว) แต่ด้วยความที่การพัฒนา Warcraft 3: Reforged มีปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารผิดพลาด, การจัดการที่ผิดพลาด กับการเปิดตัวที่เร่งรีบเนื่องจากแรงกดดันทางการเงิน แถมตัวเกมยังเปิดให้ Pre-Orders โดยไม่ถามความเห็นจากผู้พัฒนาเลย จึงทำให้สุดท้ายเกมนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และในเดือน ตุลาคม ปี 2020 Blizzard ก็ได้ยุบทีม 1 รวมถึงทำการรื้อแผนกทั้งหมดครับ ผู้พัฒนาหลายคนภายในทีมได้โอกาสในการเข้าสัมภาษณ์ในตำแหน่งอื่นๆ ภายในบริษัท แต่ก็มีนักพัฒนาหลายคนที่เลือกจะไปเข้าร่วมกับ Dream Haven หรือไม่ก็ Frost Giant ซึ่งมีนักพัฒนารุ่นเก่าจาก Blizzard อยู่มากมาย ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่า การออกไปอยู่กับบริษัทอื่นอาจทำให้พวกเขาก้าวหน้าได้มากกว่าจริงครับ อย่างไรก็ตาม การยุบทีมในครั้งนี้อาจหมายความว่า Blizzard จะไม่ทำเกมแนว RTS ออกมาอีกแล้วหลังจากนี้ด้วย เนื่องจาก Team 1 คือผู้รับผิดชอบเกมแนวนี้ทั้งหมดมาหลายปีแล้ว แต่ไม่แน่ว่าอาจจะมีการตั้งทีมใหม่ขึ้นมารับผิดชอบทางฝั่งนี้เช่นกัน เนื่องจากทางค่ายยังจำเป็นต้องอัปเดต Warcraft 3: Reforged อยู่เรื่อยๆ หลังจากนี้ด้วยครับ Credit: GamingBolt
25 Jan 2021
Nostalgia Effect: ความคะนึงหา และคุณค่าของเวลาที่ผ่านเลย
ถึง ตัวฉันเมื่อ 18 ปีที่แล้ว… นายเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีหรือเปล่า? เรารู้ว่ามันเป็นคำถามพื้นๆ แสนสามัญ ที่ตัวเราก็พอจะทราบดี ว่านายในวัย 17 ปี กำลังต่อสู้กับอะไรบ้าง เราอยากบอกว่านายไม่ต้องเป็นห่วง เพราะไม่ว่าจะด้วยความสับสนในหนทาง ความไม่เข้าใจ ความไม่แน่ใจ ทั้งหลายเหล่านี้ เชื่อเถอะว่ามันเป็นเพียงด่านที่หนึ่งในเกมชีวิตที่นายมีความสามารถที่จะฝ่าฟันมันไปได้ แต่นี่แน่ะ เราเขียนถึงนาย ไม่ใช่ว่าจะมาบ่นอะไร แต่อยากจะชวนคุยกันในเรื่องที่นายก็มีความสุขกัน ใช่แล้ว เรื่องของวิดีโอเกมยังไงล่ะ เชื่อว่าตอนนี้นายน่าจะสนุกกับเกมวางแผนอย่าง Warcraft 3: Reign of Chaos และภาคเสริม The Frozen Throne ของค่าย Blizzard Entertainment ที่สร้างกระแสความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับแนวเกม ที่ผสมผสานปัจจัยของเกม RPG เข้ากับการวางแผนแบบ Real-Time ที่ถือได้ว่าเป็นสิ่งใหม่มากๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นายรู้มั้ย เวลาผ่านไป 18 ปี ค่าย Blizzard นำผลงานอันทรงคุณค่านี้กลับมาปัดฝุ่น ปรับโฉมใหม่ ภายใต้ชื่อ ‘Reforged’ และออกวางขายให้แฟนๆ ที่ชื่นชอบได้ซื้อมาเล่นกันอีกครั้ง (อ้อ แล้วถ้านายสงสัย Starcraft 2 ก็วางจำหน่ายไปแล้วได้หลายปี ปิดตำนานแห่งสงครามอวกากศในแบบที่ไม่มีอะไรให้ค้างคาใจ พร้อม Diablo ที่ภาค 4 กำลังจะตามมาในอีกไม่ช้า) แต่สำหรับกรณีนี้ เรามีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย นายอยากจะฟังข่าวไหนก่อน? เราขอเริ่มที่ข่าวร้าย เพราะการ ‘Reforged’ ที่ควรจะเป็นการปัดฝุ่น พัฒนา และต่อยอดตามยุคสมัย กลับกลายเป็นชิ้นงานอันสุดแสนอัปยศที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์เวลากว่าสามทศวรรษของบริษัท Blizzard อย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะสามารถเกิดขึ้นได้ นายคงจะรู้สึกตกใจระคนประหลาดใจ ว่าเรื่องแบบนี้มันจะเป็นไปได้จริงๆ หรือ แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าวันเวลาสามารถเปลี่ยนคนได้ฉันใด สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไปอยู่ใต้ปีกของ Activision ผู้จัดจำหน่ายหน้าเลือดก็สามารถเปลี่ยนได้ฉันนั้น (นี่คงเป็นอีกข้อที่น่าสงสัย เพราะยุคสมัยของนาย ชื่อของ Activision นั้นดีงามไม่เคยมีรอยด่างพร้อยใดๆ ให้เห็น แต่นั่นก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่นายจะได้รับรู้ในไม่ช้า…) ความพังพินาศของ Warcraft 3: Reforged นั้น ร้ายแรงจนเกินจะเยียวยา ทั้งปัญหาทางเทคนิค ปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ ปัญหาด้านกราฟิก ปัญหาการโฆษณาเกินจริง และเมื่อ CEO หัวเรือใหญ่ออกมาปัดความรับผิดชอบ ไม่รู้ ไม่เห็น และไม่สนใจ ช่วยซ้ำรอยบาดแผลนี้ให้ลึกเกินกว่าจะสมาน อย่างน้อยยังดี ที่ทางบริษัทยังใจดี ให้ผู้ที่ไม่พอใจสามารถทำการ Refund เงินคืนได้เต็มจำนวนโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ (นี่ก็เป็นอีกหนึ่งศัพท์ใหม่ที่นายจะได้คุ้นเคยกับมันในเวลาข้างหน้า และเชื่อเถอะว่า มันจะทำให้ชีวิตการเล่นเกมของนายนั้นสะดวกสบายขึ้นอีกโขเลย…) กล่าวมาถึงตรงนี้ นายอาจจะรู้สึกว่านี่เป็นอนาคตที่ไม่น่าพิสมัย ไม่น่าเข้าใกล้ และไม่น่าเดินทางมาถึง (ใช่ มันเป็นห้วงเวลาอันโหดร้าย และนี่ยังไม่ได้นับถึงปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ที่จะเกี่ยวพันกับชีวิตของนายในไม่ช้านี้อีกนะ) แต่ถ้าจะมีข่าวดีอะไรที่เราอยากจะบอกนาย เราก็คงกล่าวอย่างสั้นๆ ง่ายๆ ว่า …. ‘ขอบคุณ’ ขอบคุณในเรื่องอะไร? นายคงจะสงสัยอยู่ภายในใจ แต่เราก็ยังบอกอย่างง่ายๆ อีกครั้งว่าขอบคุณ ขอบคุณที่ยังรักที่จะเล่นวิดีโอเกม ขอบคุณที่ยังเชื่อมั่นในวงการ ขอบคุณที่ยังหลงใหลในชิ้นงาน ที่นำมาซึ่งเรื่องที่ดีในเวลาอีกสิบแปดปีข้างหน้า ในเวลานี้ วงการเกมขยายตัวใหญ่โตกว้างขวาง ผสมผสานงานศิลป์เข้ากับงานฝีมือได้อย่างเต็มศักยภาพ และแน่นอนว่า เมื่อเทคโนโลยีเดินทางมาถึง บวกรวมกับความคิดคำนึงถึงชิ้นงานเก่าๆ ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง เราจึงยังเห็นผลงานสุดคลาสสิคที่กลับมาในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบ High-Definition Edition, Remaster ไปจนถึงที่สำคัญที่สุดคือ การ Remake กลับมาสร้างใหม่ ภายใต้ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงผ่านไปอย่างก้าวกระโดด (ขอโทษอีกครั้ง ที่จดหมายฉบับนี้อาจจะมีศัพท์แสงที่ยากต่อการเข้าใจ แต่ยังย้ำว่ามันจะกลายเป็นสิ่งที่นายได้คุ้นเคยแน่ๆ ในอนาคตภายภาคหน้า) ผลงานเกมคลาสสิคที่กลับมาใหม่นั้นมีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะด้วยซีรีส์ซอมบี้สยอง Resident Evil ที่ Remake ไปแล้วถึงสามภาค, เกมวางแผนสุดคลาสสิค Command and Conquer ที่จะ Remastered ให้ภาพสดสวยความละเอียดคมชัดลึกถึงอณู หรือแม้แต่เกมที่เราและนายรัก อย่าง Final Fantasy VII ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการ Remake ให้กับระบบ Playstation 4 และจะวางจำหน่ายในเดือนเมษายนนี้ที่กำลังจะมาถึง (ใช่แล้วล่ะ Playstation ยังคงยืดหยัดท้ากาลเวลามาได้ถึงสี่รุ่นเชียวนะ!!) ทุกสิ่งที่กล่าวไปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้ความคิดคะนึงหา หรือที่เราขออนุญาตเรียกว่า ‘Nostalgia Effect’ ของเหล่าแฟนๆ ที่ยังคงมุ่งหวังจะได้เห็นผลงานเกมที่ตนรัก ได้กลับมาสร้างความยิ่งใหญ่ กลับมามอบความสนุก และกลับมาถูกบอกเล่าด้วยน้ำเสียงสำเนียงที่แตกต่างออกไปตามยุคสมัยและวันเวลา มันเป็นสิ่งที่ทรงพลังมากๆ ที่สามารถขับเคลื่อนได้แม้แต่บริษัทใหญ่ๆ ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ถึงเสียงแห่งความต้องการดังกล่าว ปีนี้ … ค.ศ.2020 น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีที่ดีของวงการเกม เรามีผลงานชั้นยอดมากมายที่พร้อมจะวางจำหน่ายในตลอดปี เรามีผลงานที่ชวนให้คิดถึงวันวานอันแสนหวานสมัยกระโปรงบานขาสั้น และเรามีวงการที่เติบโตอย่างเข้มแข็งในแต่ละวันที่ผันผ่าน และถ้านั่นไม่เรียกว่าข่าวดี แล้วเราจะเรียกว่าอะไรได้? อีกครั้ง เราขอบคุณนาย จากใจจริง รวมถึงทุกคนที่ยังเชื่อมั่น และส่งพลังแห่งการคะนึงหาให้สิ่งที่ดีๆ ได้กลับมาอีกครั้ง และแม้จะมีความผิดพลาดที่เกิดจาก Warcraft 3: Reforged แต่มันก็เป็นเรื่องที่เล็กน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับสิ่งที่กำลังจะตามมา ดังนั้น เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ให้ดี มันจะมีคุณค่าสำหรับนายอย่างแน่นอน ด้วยรักและยังคะนึงถึง ตัวนายในอีก 18 ปีข้างหน้า ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
24 Feb 2020
สรุปดราม่า Warcraft 3 Reforged หนึ่งในเกมที่น่าผิดหวังที่สุดของปี 2020!
Warcraft 3 กับ Warcraft 3: Frozen Throne อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเกมที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Blizzard เป็นอย่างมากในช่วงปี 2002 ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องของเกมที่สนุกมาก ๆ ระบบเกมเพลย์ที่ดี และมีเกมชื่อดังมากมาย ที่ได้ถือกำเนิดมาจากเกมนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น World of Warcraft หนึ่งในเกม MMO ที่ดีที่สุดในโลก หรือ DOTA 2 เกม MOBA ที่โด่งดังไปทั่วโลก ก็ล่วนแล้วแต่มีต้นกำเนิดมาจาก Warcraft 3 ทั้งนั้น ดังนั้นถ้าจะบอกว่านี้คือหนึ่งในเกมระดับตำนาน ก็คงจะไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย แต่อย่างที่รู้กันว่าช่วงนี้กำลังมีกระแสดราม่าเกี่ยวกับเกม Warcraft 3 Reforged ที่เป็นเหมือนเวอร์ชั่น Remastered ของเกมอยู่ แล้วดราม่านี้เริ่มได้ยังไง? , ทำไมถึงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตสะเทือนวงการเกมขนาดนี้? วันนี้พวกเรา GameFever Th จะพาไปดูกันครับ จุดเริ่มต้นของดร่าม่าครั้งนี้ อย่างที่ได้กล่าวมาในข้างต้นว่า Warcraft 3 นั้นถือเป็นต้นกำเนิดของเกมฟอร์มยักษ์มากมายในปัจจุบัน ทำให้ตอนที่ Blizzard บอกว่าจะเอาเกมนี้มา Remake และวางจำหน่ายอีกครั้งในชื่อ Warcraft 3 Reforged พร้อมกับปล่อย Trailer แรกของเกมในงาน Blizzcon ปี 2018 มันได้สร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าแฟน ๆ เป็นอย่างมาก เพราะนี้หมายถึงเกมระดับตำนานจะกลับมาให้เราเล่นอีกครั้ง แต่มีภาพ กราฟิก ที่สวยเหมือนเกมในยุคใหม่ อย่างที่เห็นในวิดีโอข้างบนว่า กราฟิกของตัวเกมมันมีความสวยงามขึ้นอยางมากจริง ๆ ทำให้เหล่าแฟน ๆ แทบจะรอไม่ไหว ยิ่งช่วงกลางเดือนตุลาคมปี 2019 ที่มี วิดีโอเกมเพลย์ของ Warcraft 3 Reforged ออกมาทาง Channel Youtube ที่ใช้ชื่อว่า Book of Flames แต่กลับไม่มีใครที่ออกมารีวิวเกมแบบ เสีย ๆ หาย ๆ เลย ก็ยิ่งทำให้ผู้เล่นมั่นใจว่า พอตัวเกมวางจำหน่ายจริง ๆ ทุกอย่างมันจะต้องออกมาดีอย่างแน่นอน และในวันที่ 28 มกราคม 2020 ตัวเกมก็ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการครั้งแรก แต่แทบทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้เล่นคาดหวังจะได้เห็นในเกมเวอร์ชั่นนี้ มันกลับไม่เหมือนที่คิดครับ ฉาก Cinematic ของเกมที่หายไป และ Ui ไม่เหมือนที่เคยโฆษณาเอาไว้ ตอนเกมนี้เปิดตัวครั้งแรกในงาน Blizzcon 2018 ได้มีการโชว์ฉากที่ Arthas ต้องเข้าไปทำลายเมืองที่มีผู้ติดเชื่อ ซึ่งได้มีการทำ Cinematic ในเกมใหม่อย่างสวยงาม แต่พอตัวเกมจริง ๆ ออกมา ไอ้ฉากดังกล่าวมันกลับถูกทำออกมาในอีกแบบหนึ่ง จนทำเอาผ้เล่นงงเป็นไก่ตาแตกว่า "อ่าวแล้วฉากที่เคยได้เห็นในงาน Blizzcon หายไปไหน?" อีกทั้งตัว UI ของเกม ก็ไม่ได้มีหน้าตาเหมือนกับที่เอามาโชว์ในงาน เลยแม้แต่น้อย ส่งผลให้ผู้เล่นส่วนใหญ่รู้สึกโกรธมาก ๆ ครับ กราฟิกของเกมถูกเปลี่ยนแค่ Model ของตัวละครเท่านั้น ระยะเวลาระหว่าง Warcraft 3 กับ Warcraft 3 Reforged นั้นห่างกันถึง 18 ปี บวกกับคำพูดของทาง Blizzard เองว่านี้คือการ Remake ไม่ใช้ Remastered ทำให้แฟน ๆ คาดหวังที่จะได้เห็นเกมใหม่ที่มีภาพสวยงามสมกับที่ออกในปี 2020 แต่ความจริงก็ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะตัวเกมจริง ๆ ที่ออกมา นอกจาก Model ของตัวละคร ที่มีการทำใหม่แล้ว ตัวแมพแทบจะไม่ต่างจากเดิมเลย มีแค่ Texture เท่านั้นที่ดูสวยขึ้น เหมือนกับว่านี้เป็นเพียงแค่ Pack เอาไว้อัปเดต Model ของตัวละคร กับปรับ Texture ในเกมให้ส่วยขึ้น แต่กลับมีราคาถึง $29.99 มากกว่า ส่งผลให้นี้เป็นอีกเรื่องที่เกมเมอร์หลาย ๆ คนไม่พอใจอย่างมากครับ bug ของเกมที่มีเยอะมาก ๆ จนเป็นเหมือนเกมยังทำไม่เสร็จดี หลังจากประกาศเปิดตัว ข่าวคราวของเกมก็เงียบหายไปเลย บวกกับสิ่งที่ถูกเพิ่ม หรืออัพเกรดจริง ๆ มีแค่ไม่กี่อย่างดังที่กล่าวมาข้างบน ซึ่งมันควรจะหมายความว่าระบบหลังบ้านของเกม และอื่น ๆ มันควรจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ก็มีผู้เล่นจำนวนมาก ที่ต้องหงุดหงิดกับ bug มากมายที่มีในเกม บางรายหนักถึงขนาดที่ว่าตัวเกมไม่มีเสียง จนต้องทำการเปิดปิดใหม่เป็น 10 รอบถึงจะหายเลยด้วย Blizzard ไม่อณุญาติให้ Refuned แน่นอนว่าพอเกมไม่ถูกใจผู้เล่นขนาดนี้ ก็มีผู้เล่นจำนวนมากที่ขอ Refunds เกม ซึ่งทาง Blizzard ก็ตอบกลับได้การไม่อนุญาตให้ Refunded เกม แถมยังแบน User ที่ตั้ง Forum "วิธีการขอ Refunded เกม" อีกด้วยงานนี้ก็ยิ่งสร้างความไ่พอใจให้กับแฟน ๆ มากขึ้นไปอีก บทสรุปของดราม่า จนในเช้าของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2020 ทาง Blizzard ก็เหมือนจะไม่สามารถ ทนต่อเสียงด้านลบจำนวนมาก แรงกดดัน และการคอมเพลนจากผู้เล่นไหว สุดท้ายจึงมีการเปิดให้สามารถขอ Refunded เกมได้ เป็นการปิดม่านดราม่าในครั้งนี้ ตัวผู้เขียนเองเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกผิดหวังกับเกม Warcraft 3 Reforged มากเหมือนกัน แต่ไม่ว่ายังไง Blizzard ก็ยังเป็นชื่อของหนึ่งในผู้สร้างเกมยอดเยี่ยมมาโดนตลอดเหมือนเดิม ก็ได้แต่หวังว่าผลงานต่อ ๆ ไปของพวกเขา มันจะดีมากขึ้นครับ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
04 Feb 2020
Blizzard เปิดให้สามารถขอ Refunds เกม Warcraft 3: Reforged ได้แล้ว!
กลายเป็นหนึ่งในเกมที่น่าผิดหวังที่สุดของปี 2020 ไปแล้วกับ Warcraft 3: Reforged เพราะหลังจากตัวเกมวางจำหน่ายได้ไม่ถึงอาทิตย์ ก็โดนแฟน ๆ และเกมเมอร์มากมายที่ซื้อไป ให้คะแนนรีวิวแบบต่ำติดดิน แถมยังโดนคอมเพลนอย่างหนักหน่วงมาก ถึงขนาดได้คะแนน User Score เพี่ยงแค่ 0.5 บนเว็บไซต์ Metacritic เลยทีเดียว และเหมือนว่าทาง Blizzard จะเริ่มทนกระแสด้านลบนี้ไม่ไหวแล้ว เพราะล่าสุดก็ได้มีการเปิดให้คนที่ซื้อเกมไปสามารถขอ Refunds ได้แล้วครับ! เว็บไซต์ GameRant ได้รางงานว่า มีผู้เล่นมากมายที่ได้รับการ Refunds จากทาง Blizzard Support เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะขอ Refunds ไปกี่ครั้งก็ถูกปฏิเสธกลับมา แต่ดูเหมือนตอนนี้จะสามารถขอเงินคืนได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรแล้วครับ ถ้าหากใครที่ซื้อตัวเกมมาแล้วไม่พอใจ และมีความต้องการจะขอเงินคืน ก็สามารถทำได้แล้วตอนนี้เลยครับ Warcraft 3: Reforged วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PC เท่านั้น Credit : GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
04 Feb 2020
Warcraft 3 Reforged กลายเป็นเกมที่ได้ User Score ต่ำที่สุดในเว็บ Metacritic!
กลายเป็นอีกหนึ่งดราม่าที่กำลังหนักหน่วงอยู่ในช่วงนี้กับเกม Warcraft 3 Reforged ที่ดูเหมือนว่า ตัวเกมที่วางจำหน่ายจริง ๆ จะไม่เหมือนที่ Blizzard เคยได้โฆษณาไว้เลย ขนาดเว็บไซต์ IGN เองก็ได้ทำการปล่อยวิดีโอโชว์ความแตกต่างระหว่าง ตัวเกมที่ได้ถูกโฆษณาในงาน Blizzcon 2018 กับตัวเกมจริง ๆ ว่ามีความแตกต่างกันขนาดไหน สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ! ยังไม่ใช้แค่นั้น ในเว็บไซต์ Metacritic ตัวเกมยังได้คะแนนรีวิว User Score ต่ำที่สุดที่ 0.5 คะแนนอีกด้วย (ตำกว่า Metal Gear Survive ที่ตอนนี้มีคะแนน 1.2 ซะอีก) คอมเม้นต์แทบทั้งหมดกว่า 19,000 คอมเม้นต์ ก็เป็นในเชิงที่ลบมาก ๆ บ้างก็ว่า "นี้คือเกม Remastered ที่แย่ที่สุด" บ้างก็ว่า "ทำยังไงถึงพัฒนาเกมที่มันดีอยู่แล้วให้แย่ลงได้ขนาดนี้" ถึงขนาดมีคนตั้งชื่อเล่นให้กับเกมใหม่ว่า Warcraft 3 Refund เลยทีเดียวครับ Warcraft 3 Reforged วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน PC เท่านั้น Credit : PCgamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
03 Feb 2020
Blizzard จับ Warcraft III รีมาสเตอร์ ภาพสวยระดับ 4K
ใครเป็นแฟน Warcraft III ก็น่่าจะดีใช่มิใช่น้อยเพราะล่าสุดในงาน BlizzCon 2018 ทางผู้พัฒนาอย่าง Blizzard เองได้เปิดตัวเกมภาค Remaster โดยใช้ชื่อว่า Warcraft 3: Reforged โดยตัวเกมเวอร์ชั่นนี้จะมีการรีโมเดลของตัวละครและแอนิเมชั่นต่างๆ, ปรับกราฟิกได้สูงในระดับ 4K, ปรับเปลี่ยนแผนที่และโหมด Campaign เนื้อเรื่องของเกม พร้อมอัพเกรด UI และ World Editor อีกด้วย https://www.youtube.com/watch?v=Q2zfx5hQ3CE รวมถึงทางผู้พัฒนาเองก็ได้ยืนยันด้วยว่าตัวเนื้อหาเสริมอย่าง Forzen Throne นั้นก็จะอยู่ในเกมเวอร์ชั่นนี้ พร้อมทั้งเรายังสามารถเล่นโหมด Online Multiplayer ได้อย่างในเวอร์ชั่นเก่า ซึ่งอย่างนี้เราสามารถเล่นเกม DotA 1 ได้ในเวอร์ชั่นภาพสวยขึ้นแน่นอน แถมเกมภาคนี้ยังสามารถเล่นกับผู้ที่ใช้เกมเวอร์ชั่นเก่าเล่นได้อีกด้วย โดย Blizzard บอกว่าตัวเกมจะมีกำหนดวางจำหน่ายในช่วงปีหน้า https://www.youtube.com/watch?v=72UbFQO5-m0 ขอบคุณข้อมูลจาก pcgamer
03 Nov 2018